เที่ยวกาญจนบุรี 3 วัน 2 คืน สังขละบุรี ไทย มอญ และ พม่า กับครอบครัว เห็นรอยยิ้มของทุกคนมีความสุขแค่นี้ก็อบอุ่นในกันแล้วค่ะ ทริปนี้บอกเลยว่าเป็นทริปที่ไปกับครอบครัว เราเดินทางด้วยรถส่วนตัวและใช้ GPS ในการเดินทางบางทีก็มีสัญญาณ บางทีก็ไม่มีสัญญาณ อะก็คลำหาเส้นทางกันต่อไปคะ
DAY สังขละบุรี – สะพานมอญ
เวลา 3:43 น. เดินทางด้วยรถยนต์จาก นครปฐม ไปถึง แพอิงจันทร์ สังขละบุรี ถึงตอน 11:30 น. แต่ระหว่างทางมีแวะถ่ายรูปเก็บไว้เรื่อยๆ เพราะถนนเส้นทางสวยและยังไม่ค่อยมีผู้คน มากมาย แม่น้ำใสสะอาด มองเห็นตัวปลา กระโดดน้ำว่ายน้ำ และสถานที่แรกที่เรากำลังเดินทางไป คือ ด่านเจดีย์สามองค์ชายแดนไทย
ด่านเจดีย์สามองค์ เป็นเขตสิ้นสุดชายแดนไทยด้านทิศตะวันตก ในอดีตเป็นช่องทางเดินทัพของไทยและพม่า ทัพพม่าเดินทัพไปทางแม่น้ำ เพื่อไปยังเมืองกาญ นักท่องเที่ยวสามารถข้ามชายแดนเข้าไปชมตลาดพญาตองซูในเขตพม่า ตอนนี้ด่านเจดีย์สามองค์ได้มีการปรับปรุงให้ดูสวยงามมากขึ้น ณ ตอนนี้ ไม่สามารถข้ามไปฝั่งพม่าได้ แต่ก็แอบถ่ายภาพมาไว้นิดหน่อย มีตลาดให้ซื้อของฝากกลับได้จ้า
ที่อยู่ : ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี
หลังจากออกจากด่านเจดีย์สามองค์แล้วก็เดินทางไปตาม GPS ซึ่งเราไม่รู้เลยว่านำทางเราไปถูกด้วยแหระ แต่แค่ตรงนั้นมันไม่เหมือนน้ำตกอะ TT^TT นั้นคือ น้ำตกนพพิบูลย์ นั้นเอง
น้ำตกนพพิบูลย์ อยู่ใกล้บริเวณริมถนนทางหลวงชนบท 2078 ใกล้กับบริเวณลำธาร ต่เป็นแอ่งน้ำเล็กๆไม่ใหญ่ อยู่ติดกับถนน ไม่สามารถลงเล่นน้ำได้ เพราะไม่สามารถจอดรถได้ หลังจากนั้นก็ขับต่อไปยัง
จุดเล่นน้ำ ห้วยซองกาเลีย (แม่น้ำซองกาเลีย) เป็นแพไว้ให้นั่งทานอาหาร เล่นน้ำกันจ้า
หลังจากแวะ ห้วยซองกาเลีย แล้วก็เดินทางต่อไปยัง สังขละบุรี ก็เดินทางไปไหว้พระ กันสักหน่อยค่ะ
เจดีย์พุทธคยา สังขละบุรี
เจดีย์พุทธคยา ได้มาไหว้หลวงพ่อทันใจพร้อมกับให้ท่านชี้นิ้วที่หัวของเราด้วย รู้สึกดีใจที่ได้มาไหว้ท่าน พร้อมกับมากราบไหว้พระพุทธเจ้ากันอีกด้วยค่ะ และบนยอดของเจดีย์จะเป็นที่ประดิษฐาน พระบรมสารีริกธาตุ ส่วนของกระดูกนิ้วหัวแม่มือขวา ขนาดเท่ากับเม็ดข้าวสารจำนวน 2 องค์
ที่อยู่ : เจดีย์พุทธคยา ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี
วัดวังก์วิเวการาม สังขละบุรี
วัดวังก์วิเวการาม (มอญ: ဘာဝင်္ကဝိဝေကာရာမ) หรือ วัดหลวงพ่ออุตตมะ (ဘာကျာ်ဇၞော်အ္စာတၠဥတ္တမ) เป็นวัดที่หลวงพ่ออุตตมะ ตั้งอยู่บนเนินสูงในบริเวณที่เรียกว่า สามประสบ ซึ่งเป็นจุดที่แม่น้ำ 3 สาย คือแม่น้ำซองกาเลีย แม่น้ำบีคลี่ แม่น้ำรันตี ไหลมาบรรจบกัน ท่านได้ร่วมกับชาวบ้านอพยพชาวกะเหรี่ยงและชาวมอญ ได้ทำการสร้างสะพานและวัดขึ้นไว้ ชาวไทยเชื้อสายมอญเปรียบหลวงพ่ออุตตมะเป็น “เทพเจ้าแห่งชาวมอญ” วัดวังก์วิเวการาม จึงเกิดจากพลังศรัทธาที่มีต่อหลวงพ่อ และเป็นวัดที่เคยเป็นที่จำพรรษาของ “หลวงพ่ออุตตมะ” วัดจึงเป็นเสมือนตัวแทนหลวงพ่อ และเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับชาวมอญ วันนี้มีโอกาสได้มากราบไหว้ท่าน ถือเป็นเรื่องที่ดีและเป็นสิริมงคลกับตัวเราและครอบครัวด้วยเช่นกัน
ที่อยู่ : วัดใต้น้ำ วัดวังก์วิเวการาม (เก่า) ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี
หลังจากกลับจากไหว้หลวงพ่ออุตตมะ แล้วก็มาเข้าเช็คอินที่ที่พัก (แพอิงจันทร์) ที่พักนี้มีกิจกรรมให้เล่นด้วยนะคะ คือ พายคายัค และ ว่ายน้ำ เล่นข้างหน้า ที่พักเรานั้นเอง ภายในห้องก็จะมีเตียง 2 เตียง ชั้นวางของ ลิ้นชัก ที่วางจาน กระติกน้ำร้อน กาแฟ โอวันติล โต๊ะพับ ทีวี ห้องน้ำ เก้าอี้นั่ง หน้าระเบียง แต่ภายในห้อง มีมด เยอะมากเลยค่ะ พร้อมกับ แมงมุม ขยุ้มหลังคา ครั้งแรกของการนอนแพ ทำให้รู้สึกว่า เวียนหัวนิดๆ เนื่องจากเป็นการนอนบนน้ำ เลยทำให้ เวียนหัว คล้ายๆกับการเมาคลื่น นั้นเอง
มาเข้าพักผ่อนเล็กน้อย ตกบ่ายๆเย็นๆ ก็กระโดดลงเล่นน้ำ พายเรือคายัค กันสักนิดหน่อย ตกเย็นก็ไป เดินที่สะพานมอญ เราพักอยู่ฝั่งไทย เลยต้องเดินผ่านสะพานแดง (สะพานศรีสุวรรณคีรี) เพื่อเดินข้ามไปที่สะพานมอญ (สะพานไม้อุตตมานุสรณ์) เดินข้ามฝั่งไปยังพม่า หรือ มอญนั้นเองค่ะ ระหว่างทางก็จะมีกะเหรี่ยงมาคอยเสนอให้ปะแป้ง หรือถ่ายรูปแล้วแต่เราจะจ่ายให้จ้า…… วันนี้เลยได้ ถ่ายกับกะเหรี่ยงทั้งชายและหญิงกันเลยทีเดียว….. และเราก็กลับมาฝั่งไทย ฝนแอบตกเล็กน้อย แต่ก็กลับที่พักได้อย่างโอเค…..
DAY สังขละบุรี – หมู่บ้านอีต่อง
เช้านี้ตื่น ตี 5 เตรียมตัวเพื่อไปทำบุญฝั่งมอญ ที่สะพานมอญ จ้าาาา ได้สั่งชุดทำบุญและใส่เสื้อผ้ามอญสำหรับทำบุญกันด้วยจ้า ชุดละ 100 บาท มีเรือมารอรับส่งที่แพที่พักของเรากันเลยจ้า แต่หากใครไม่ได้สั่งจองชุดทำบุญไว้ สามารถไป หาซื้อได้ที่ฝั่งมอญ หรือ ตามนามบัตรนี้จ้า สามารถโทรไปคุยกับน้องเขาได้นะคะ น้องเขาก็จะมีชุดทำบุญ พร้อมชุดมอญและเรือรับส่งแพที่เราเลือกพัก
ตื่นเช้ามาถ่ายภาพเก็บบรรยากาศยามเช้าหน้าแพริมน้ำก่อนนั่งเรือไปทำบุญฝั่งมอญ ได้หลายภาพอยู่จ้า
คอนเซปภาพคือ ดีดพระธาตุ จับพระธาตุ และ ชี้ นั้นไงพระธาตุ ก่อนที่เรือมารับเราไปทำบุญจ้า เรือมารับตอนเวลา 6 โมง 20 นาทีจ้า เรือก็มารับจ้า ทั้งแพ ไปกันหมดเลย ก็มีเก็บภาพบรรยากาศสำหรับการนั่งเรือข้ามไปเพื่อทำบุญฝั่งมอญจ้าาาา
เมื่อถึงฝั่งมอญแล้วก็จัดการเปลี่ยนชุดเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นสไตล์มอญกันเลยทีเดียวค่ะ ก็ขอสักภาพ 2 3 4 5 ภาพ กับชุดมอญกันหน่อยจ้า แต่เสียดาย ให้นั่งท่องเที่ยวแต่งกันอย่างเดียว ภาพเลยออกมาไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ เพราะคนในพื้นที่ไม่ค่อยมีใครแต่งชุดกันแล้วคะ น่าเสียดายมากๆเลยละ
หลังจากทำบุญเสร็จ ก็เดินซื้อโจ๊ก ขนมปัง ปาโก๋ กิน ชื่อร้านโจ๊กนั่งย่อง แต่ขนมปังเราไม่แนะนำนะคะ เพราะเราว่าไม่อร่อย หลังจากนั้นก็ไปเดินเล่นถ่ายรูปที่สะพานมอญพร้อมกับปะแป้งพร้อมถ่ายรูปกับน้องคนมอญ เราก็คุยกับน้องเขาว่าพานหนักไหม น้องบอกไม่หนัก พี่ลองได้นะ และน้องก็ได้เอาพานไว้บนหัวด้วยแหละ 555 น่ารักจัง เด็กๆที่นี้น่ารัก พูดเก่ง เฟรนด์ลี่
ความสนุกที่ได้รับจากสังขละบุรี สะพานมอญ คือ บรรยากาศ ความน่ารัก ของเด็กๆที่สะพาน รวมถึง ความสุขของครอบครัวในการทำกิจกรรมร่วมกัน หลังจากนั้นก็กลับที่พัก กินข้าว และเล่นน้ำหน้าแพกันต่อและเดินทางต่อ เพื่อไปหาที่กางเต้นท์กันต่อจ้าาา
น้ำตกเกริงกระเวีย
มาแวะน้ำตกเกริงกระเวีย เป็นน้ำตกที่มีขนาดเล็ก และ เป็นน้ำตกที่เหมาะกับการเล่นน้ำและพักผ่อนหย่อนใจ นั่งชิลฟังเสียงน้ำไหลเป็นที่สุด มีค่าบริการ ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท มีของกินขายเยอะอยู่ มีร้านข้าว ร้านน้ำ ขนมขายอยู่บริเวณนั้น คาปูชิโน่ แก้วละ 55 บาท โกโก้ ปั่น แก้วละ 60 บาทจ้า
ที่อยู่ : น้ำตกเกริงกระเวีย อุทยานแห่งชาติเขาแหลม หมู่ 4 ตำบลปรังเผล อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี
หมู่บ้านอีต่อง
สรุปก็ได้จุดมุ่งหมายสำหรับการไปกลางเต้นท์ครั้งแรกของพวกเรากันแล้วคะ เดินทางไปยังหมู่บ้านอีต่อง แต่ตอนนี้ไม่มีแหล่งให้กางเต้นท์กันแล้วนะคะ จำเป็นต้องไปกางที่อุทยานเท่านั้น แต่เราแอบได้ที่กางเต้นท์ดีๆที่ ปิล๊อก แคมป์ แอนด์ คอฟฟี่ เจ้าของใจดี มากเลยคะ ขอบคุณมากๆนะคะ ไว้โอกาสหน้าไปใหม่นะคะ พอเราได้ที่พักแล้วก็ขอไปที่เนินช้างศึก ไปคะ ไปขึ้นรถเพื่อไปดูตะวันตกดินกันคะ
ที่อยู่ : บ้านอีต่อง ตำบลปิล็อก อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี
เนินช้างศึก หลังจากนั้นนั่งรถ คนละ 50 บาท เด็กไม่เสียค่ารถ ขึ้นไปชมพระอาทิตย์ที่เนินช้างศึกเพื่อเก็บบรรยากาศภาพอาทิตย์ตกดิน รอจนกว่าพระอาทิตย์จะตกดินคะ
ตะวันกำลังจะตกดินคนหนึ่งจับตะวัน คนหนึ่งกินตะวันกันเลยทีเดียวจ้าาาาา แต่ทั้งหมดที่ได้ก็คือความทรงจำดีๆกับคนที่เรารักนั้นเองคะ
และกลับมาหาของกินที่ตลาดหมู่บ้านอีต่อง สุดท้ายสั่งชาบูกับเจ้าของที่พักพร้อมน้ำเปล่า 1 แพ็ค หน้าเต็นท์ อากาศเริ่มเย็นลง พอดึกๆก็หนาวมากเลย ประมาณ 3 ทุ่มก็เริ่มเข้าเต้นท์นอนพัก เพื่อวันพรุ่งนี้ขึ้นไปดูพระอาทิตย์ ขึ้นจ้าาา
DAY หมู่บ้านอีต่อง – ไทรโยคน้อย
ตื่นมาแต่เช้าเพื่อรอไปดูพระอาทิตย์ขึ้น แต่ก่อนไปก็ขอถ่ายภาพหมู่บ้านก่อนขึ้นรถเพื่อไปดูพระอาทิตย์ ขึ้นจ้าาา แต่เช้านี้อากาศเย็น ลมแรง ทำให้เมฆบดบังพระอาทิตย์เอาไว้ เลยทำให้มองไม่เห็น พระอาทิตย์ขึ้น พอลงจาก เนินช้างศึกแล้วก็ไปหาข้าวกินและไปต่อที่ น้ำตกจ๊อกกระดิ่น ผู้สูงอายุ 60ปีขึ้นไป เข้าฟรี เด็กเล็กเข้าฟรี รอบนี้ เราจ่ายค่าเข้า 40 บาท จ้า 🤣🤣
น้ำตกจ๊อกกระดิ่น
น้ำตกจ๊อกกระดิ่น ตั้งอยู่ที่ อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ เป็นน้ำตกที่อยู่กลางหุบเขา ท่ามกลางป่าของธรรมชาติ มีน้ำให้เล่นตลอดทั้งปี แต่มาช่วงหน้าหนาวน้ำก็จะใส เย็น สดชื่น เล่นน้ำสนุกสุดๆไปเลยคะ แต่เข้าไปที่น้ำตกระยะทางหนึ่ง แต่คุ้มค่าที่เข้ามาเพราะน้ำใสเย็นสบายมากเลยจ้า จุดนี้ก็ได้ไปหลายภาพกันเลยทีเดียว
ที่อยู่ : น้ำตกจ๊อกกระดิ่น อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ตำบลปิล๊อก อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี
และแล้วเราก็ได้เวลาเดินทางต่อไปยังน้ำตกไทรโยคน้อยกันต่อนะจ๊ะ น้ำตกไทรโยคน้อย เข้าฟรี แล่นน้ำได้จ้า น้ำสวย เย็นสบาย แต่คนเยอะไปนิดนึ่ง แต่ก็ยังคงสนุกอยู่ ☺️ บอกเลยว่าทริปนี้ เต็มที่ที่สุด และได้ภาพถ่ายมาอีกหลายมุม
น้ำตกไทรโยคน้อย
น้ำตกไทรโยคน้อย เป็นน้ำตกที่สวยงามอีกแห่งของกาญจนบุรี โดยบริเวณรอบๆ น้ำตกก็จะมีธรรมชาติที่สวยงามและร่มรื่น เป็นที่ชื่นชอบในการเล่นน้ำ และเป็นจุดหนึ่งที่เด็กๆหลายคนชอบรวมถึงผู้ใหญ่ด้วยเช่นเดียวกันจ้า
ที่อยู่ : น้ำตกไทรโยคน้อย ตำบลท่าเสา อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี