เทศกาลโชว์ผลงานศิลปะจากไฟฟ้าพร้อมกับเสียงดนตรี เมือง Mons ได้มีการจัดแสดงเทศกาลไฟครั้งแรกขึ้น เพื่อให้ผู้คนได้เข้ามาชมผลงานศิลปะที่สวยงามกันในเมือง และมีการติดตั้งเครื่องฉายแสงไว้หลากหลายจุดเพื่อทำการฉายแสงไฟไปในพื้นที่ต่างๆที่ทำการจัดแสดงโชว์ ทั้งหมดนี้สามารถเข้าชมฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆนะคะ
จุดแต่ละที่จัดแสดงแตกต่างกันออกไปทุกจุด ทั้งหมด 27 จุดแสดงโชว์ มีความสวยงามที่แตกต่างกันไป เราขอเล่าถึงจุดที่เราชื่นชอบในสไตล์ของเราก็เลยดีกว่าค่ะ
เริ่มจากจุดที่ 26 ก่อนเลยค่ะ Mons en Lumières บรรยากาศภายในโบสถ์ จุดที่ 26 “HYMN” จัดทำโดย Antoine Goldschmidt & Ofer Smilansky – Magicstreet
เป็นผลงานที่ผู้จัดทำได้รับแรงบันดาลใจมาจากบทเพลง “Hymn of the Cherubim” และได้สร้างสรรค์ความงดงามและความสมบูรณ์ ด้วยแสงไฟประสานกับเสียงเพลง ชวนให้นึกถึงตัวตน และเต้นไปอย่างกลมกลืนกับองค์ประกอบของบทเพลง
Mons en Lumières บรรยากาศภายในโบสถ์ จุดที่ 25 “La Magie du Parc du Beffroi” (ความมหัศจรรย์ของสวนหอระฆัง) จัดทำโดย Magic Monkey
เป็นผลงานศิลปะยามค่ำคืนที่ผสมผสาน ระหว่างแสงไฟ หมอก และเสียงดนตรี ทำให้เราเหมือนเข้าอยู่ในเทพนิยาย
Mons en Lumières ภาพบรรยากาศจุดที่ 23 “Les frontières de l’imaginaire” จัดทำโดย Electroson Studio
เป็นการแสดงถึงจินตนาการที่สร้างสรรค์ขึ้นมาทั้งแสงสี เสียง สื่อผ่านทางอาคาร ให้ชวนน่าหลงใหล เป็นผลงานที่สวยงามมากค่ะ
Mons en Lumières ภาพบรรยากาศจุดที่ 18 “La Rivière” จัดทำโดย Cédric Le Borgne
ให้ความรู้สึกเหมือนปลาคาร์ปยักษ์สองตัวว่ายอยู่บนท้องฟ้า เป็นสิ่งมีชีวิตอันงดงามที่ส่องแสงสว่างมาจากบนฟ้าเป็นการสร้างสรรค์ผลงานที่สวยงามเป็นอย่างมากและดูเป็นธรรมชาติ
Mons en Lumières ภายบรรยากาศจุดที่ 16 “You Are Still Alive” จัดทำโดย Robert Montgomery
“คุณยังมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ด้วยท้องฟ้าสีครามที่หมุนอย่างรวดเร็วไปสู่อนาคตที่เปราะบางและไม่แน่นอน อนาคตคือผลผลิต / อนาคตคือความฝันแห่งความรัก”
Mons en Lumières การแสดงโชว์ของจุดที่ 14 มีชื่อว่า “Order 200” จัดทำโดย l’artiste Emilien Guesnard de AADN
แนวคอนเซปต์ไอเดียของโชว์นี้คือการแสงไฟพร้อมกับการบรรเลงเพลงผ่านจากหลอดไฟ 200 ดวง หลอดไฟแต่ละดวงจะมีตัวโน้ตดนตรีที่เกี่ยวข้องกับการฉายแสงและมีเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งทำให้ผู้ชม ผู้ฟังหลงใหลอยู่ในช่วงแห่งจินตนาการ
Mons en Lumières ภาพบรรยากาศจุดที่ 8 “Jardin d’Eden, si tout était à refaire…” จัดทำโดย Atis Théâtre, Artiste Montois
เป็นการนำเรื่องราวของอาดัมและเอวามาจัดแสดงผ่านแสงสีและได้เล่าบรรยายออกมาได้อย่างสวยงาม ที่มองผ่านไปยังหอระฆังBeffroi
เป็นการจัดแสดงไฟที่สวยงามมากๆเลยค่ะสามารถเข้าไปชมการฉายไฟจากใน Youtube กันได้เลยนะคะ อัดคลิปมาให้ชมกันอย่างจุใจเต็มๆ